ท้าให้อ่าน : วางแผนอ่านหนังสือ 30 เล่ม ในปี 2022

หลายคนที่รู้จักผม อาจมองดูว่าผมเป็นนักซ่อมนักสร้าง ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ผมได้สร้างสิ่งใหม่ๆ มากมาย สร้างสินค้านวัตกรรม รวมทั้งยังจดสิทธิบัตรคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์ของผมด้วย อาจดูเหมือนว่าผมทำได้หลายเรื่อง มีความรู้มากมายหลายด้าน – ถ้าไม่ใช่คนที่อยู่ใกล้ชิด ไม่ใช่คนที่ได้แวะเวียนมาที่บ้านของผมจริงๆ ก็จะไม่ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของผม คือ ผมเป็นคนชอบสะสมหนังสือ และอ่านหนังสือสะเปะสะปะมากมาย และยิ่งหากเป็นคนที่ใกล้ชิดอย่างถึงที่สุดแล้วล่ะก็ จะรู้ได้เลยว่า ในความเป็นจริงแล้ว ผมไม่ใช่นักอ่านโดยธรรมชาติ แต่เป็นนัก ‘พยายาม’อ่าน

‘ทลายกองดอง’เป็นคีย์เวิร์ดที่ผมสนใจมากในช่วงปี ’64 ที่ผ่านมานี้ ทำให้รู้ว่ามีคนอีกมากมายที่ชอบซื้อหนังสือมาวางกองเอาไว้ โดยไม่สามารถจัดเวลามาอ่านหนังสือที่ซื้อเอาไว้ได้ มีนิสัยชอบซื้อแต่ไม่ได้อ่าน จนมีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง เป็นนิสัยไม่ดีติดตัว จากจุดเล็กๆ แค่เรื่องการอ่านหนังสือ อาจลามไปถึงเรื่องอื่นๆด้วย – ผมเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่านิสัยผัดวันประกันพรุ่งที่ไม่ดีนี้ มันหยั่งรากลึกและค่อยๆเติบโตเป็นหนึ่งในนิสัยไม่ดีหลักอันหนึ่งของผมเสียแล้ว ผมต้องการกำจัดนิสัยที่ไม่ดีนี้ให้ได้ โดยเริ่มต้นที่กองดอง

ปี 2564 – ผมได้อ่านหนังสือไปแล้ว 14 เล่ม – เฉลี่ยเดือนละ 1 เล่ม ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ที่จะเริ่มต้นปี 2565 ด้วยการตั้งปณิธานว่าจะอ่านหนังสือให้ได้ เดือนละ 2 เล่มขึ้นไป

นี่ก็ผ่านมาเกือบๆ เดือนหนึ่งแล้ว ผมเพิ่งอ่านจบไปเพียง 1 เล่ม เท่านั้น หนังสือเล่มอื่นๆอีก 2-3 เล่ม ที่อ่านไปพร้อมๆกันทีเดียวยังอ่านค้างเอาไว้อยู่อ่านไปได้เกือบๆจะครึ่งเล่มเท่านั้นเอง

เพราะยุ่งวุ่นวายไปกับภาระกิจหลายๆอย่าง กิจกรรมต่างๆนานา แต่ก็คงจะไม่สายเกินไปที่จะตั้งเป้าและวางแผนการอ่านหนังสือ หากจัดเวลาอ่านหนังสือได้สัปดาห์ละ 8-10 ชั่วโมง ผมควรจะอ่านจบได้เดือนหนึ่ง 2-3 เล่ม

หนังสือที่ผมตั้งเป้าว่าจะอ่านให้จบในปีนี้ ดังนี้ครับ

  1. จัดระบบความคิด จัดระเบียบชีวิต ด้วย บุลเล็ตเจอร์นัล
    Marie Kondo – (182 หน้า) (✓ อ่านจบแล้ว 21 มค. 65)
  2. วิถีบันทึกแบบบูโจ : The Bullet Journal Method
    Ryder Carroll – (391 หน้า)
  3. กล้าที่จะถูกเกลียด เล่ม 1 : 嫌われる勇気
    Ichiro Kishimi และ Fumitake Koga – (316 หน้า) (✓ อ่านจบแล้ว 22 กพ. 65)
  4. กล้าที่จะถูกเกลียด เล่ม 2 : 幸せになる勇気
    Ichiro Kishimi และ Fumitake Koga – (304 หน้า)
  5. คิดแบบยิวทำแบบญี่ปุ่น เล่ม 1 (✓ อ่านจบแล้ว 28 กค. 65)
    Honda Ken – (280 หน้า)
  6. คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น 2 : บริหารเงินสไตล์นายธนาคารยิว
    Honda Ken – (272 หน้า)
  7. คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น 3 : เรียน วิชาคน กับเฒ่ายิว
    Honda Ken – (312 หน้า)
  8. GRIT : สิ่งต้องมี… เมื่อคุณไม่มีแต้มต่อในชีวิต
    Angela Duckworth – (366 หน้า)
  9. สำเร็จได้ไม่ต้องรอให้สมบูรณ์แบบ
    Stephen Guise – (254 หน้า)
  10. Late Bloomer : สำเร็จได้ไม่ต้องเห็นรีบ
    Rich Karlgaard – (320 หน้า)
  11. Tiny Habit เปลี่ยนน้อยนิดเพื่อพิชิตทุกเป้าหมาย
    B.J. Fogg – (408 หน้า)
  12. Atomic Habits : เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น
    James Clear – (328 หน้า)
  13. อย่าเป็นคนเก่งที่คุยไม่เป็น : 超一流の雑談力
    Tadashi Yasuda – (229 หน้า)
  14. INTO THE MAGIC SHOP เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ
    James R. Doty – (222 หน้า) (✓ อ่านจบแล้ว 13 มีค. 65)
  15. Mindset : ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา
    Carol S. Dweck – (360 หน้า)
  16. เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด : 아프니까 청춘이다
    김난도 – (247 หน้า)
  17. The Power of When : พลังแห่งเมื่อไหร่
    Michael Breus – (496 หน้า)
  18. Money Summary สรุปเรื่องเงินให้เข้าใจง่ายใน 1 เล่ม
    จักรพงษ์ เมษพันธุ์,  วิฑูรย์ สูงกิจบูลย์ – (240 หน้า)
  19. Money 101 : เริ่มต้นนับ 1 สู่ชีวิตการเงินอันอุดมสมบูรณ์
    จักรพงษ์ เมษพันธุ์ – (216 หน้า)
  20. กองทุนรวม 101 : ความรู้พื้นฐานสำหรับนักอยากลงทุนผู้ไม่มีเวลา
    ธนัฐ ศิริวรางกูร (หมอนัท คลีนิคกองทุน) – (240 หน้า)
  21. คู่มือออกแบบชีวิต ด้วย Design Thinking
    Bill Burnett & Dave Evans – (295 หน้า)
  22. คู่มือออกแบบชีวิตที่ใช่-งานที่ชอบ ด้วย Design Thinking
    Bill Burnett & Dave Evans – (335 หน้า)
  23. จงทิ้งสิ่งที่ดี เพื่อสิ่งที่ดีที่สุด : Essentialism
    Greg McKeown – (272 หน้า)
  24. ชีวิตดีเมื่อมีของน้อย : ปรัชญาความสุขฉบับมินิมอล Stuffocation
    James Wallman – (256 หน้า)
  25. Living Forward : A Proven Plan to Stop Drifting and Get the Life You Want
    Michael Hyatt – (208 หน้า)
  26. Readerism : นักอ่านหนังสือมืออาชีพ
    สุกฤษฏิ์ ธีระปัญญารัตน์ – (256 หน้า) (✓ อ่านจบแล้ว 19 มิย. 65)
  27. วินนีเดอะพูห์ (✓ อ่านจบแล้ว 27 สค. 65)
  28. เว้นว่างไว้ เพื่อเลือกหนังสือที่อยากอ่าน มาใส่ไว้ในรายการนี้
  29. เว้นว่างไว้ เพื่อเลือกหนังสือที่อยากอ่าน มาใส่ไว้ในรายการนี้
  30. เว้นว่างไว้ เพื่อเลือกหนังสือที่อยากอ่าน มาใส่ไว้ในรายการนี้

หนังสือเล่มอื่นๆ ที่ตั้งใจอ่านให้ลูกฟัง – ผมทำกิจกรรม ‘ครอบครัวอ่านออกเสียง‘ อ่านหนังสือเล่มต่างๆ ให้ลูกฟัง ช่วยให้ลูกของผมติดนิสัยรักการอ่าน และนี่คือรายชื่อหนังสือเล่มต่างๆ (หนังสือชุด) ที่ตั้งใจจะอ่านในลูกฟังในปีนี้ครับ (หนังสือที่จะอ่านให้ลูกฟัง จะช่วยลดความเลี่ยนในการอ่านหนังสือประเภท how-to ได้ระดับนึง)

  1. บ้านเล็กริมห้วย
    ลอร่า อิงกัลส์ ไวล์เดอร์ – (286 หน้า) (✓ อ่านจบแล้ว 26 กพ.65)
  2. ริมทะเลสาปสีเงิน
    ลอร่า อิงกัลส์ ไวล์เดอร์ – (296 หน้า)
  3. ฤดูหนาวอันแสนนาน
    ลอร่า อิงกัลส์ ไวล์เดอร์ – (336 หน้า)
  4. เมืองเล็กในทุ่งกว้าง
    ลอร่า อิงกัลส์ ไวล์เดอร์ – (312 หน้า)
  5. ปีทองอันแสนสุข
    ลอร่า อิงกัลส์ ไวล์เดอร์ – (323 หน้า)
  6. สี่ปีแรก
    ลอร่า อิงกัลส์ ไวล์เดอร์ – (117 หน้า)
  7. ตามทางสู่เหย้า
    ลอร่า อิงกัลส์ ไวล์เดอร์ – (95 หน้า)
  8. จดหมายจากลอร่า
    ลอร่า อิงกัลส์ ไวล์เดอร์ – (164 หน้า)
  9. ชีวิตต้องสู้
    วิลเลียม แอนเดอร์สัน – (233 หน้า)

รายชื่อหนังสือเหล่านี้ ผมทำเป็นลีสต์เอาไว้ใน GoodReads (2022 Reading List) เพื่อบันทึกความก้าวหน้าในการอ่านของตัวเองครับ

ส่วนตัวผมเอง คิดว่าการอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ คำสบประมาทที่ว่า คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีหนึ่งไม่ถึง 8 บรรทัด ผมคิดว่าไม่เป็นความจริงซะทีเดียวหรอกครับ แต่ถ้าหากพูดว่า “คนที่อ่านหนังสือได้แต่ไม่ได้ลงมืออ่านหนังสือเลย ก็ไร้ค่าไม่ต่างอะไรกับคนที่อ่านหนังสือไม่ออก” อันนี้เป็นคำสบประมาทที่รุนแรงและกระตุ้นความพยายามในการเอาชนะความไม่เอาถ่านได้

ลองตั้งเป้ากันดูนะครับ อาจจะยากหน่อยสำหรับคนที่ยังไม่เป็นนักอ่านโดยธรรมชาติ แต่ไม่เสียหายถ้าได้ลองลงมือทำ ถึงแม้จะอ่านจบไม่กี่เล่ม อย่างน้อย เราก็มีความรู้เข้าสู่สมอง มากกว่าตอนแรกที่เราไม่ได้เริ่มอ่านหนังสือครับ