ปี 63 เป็นปีเริ่มต้นของการมีโรคระบาด ปี 64 ยังคงเป็นอีกปีหนึ่งที่การทำกิจกรรมกลุ่ม เข้าสังคม ยังคงเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่เต็มที่นัก ภายใต้ข้อจำกัดต่าง ๆ นานา ครอบครัวของผมโชคดีอย่างหนึ่ง ที่ได้เริ่มต้นสร้างกิจกรรมกีฬาประจำบ้าน
ก่อนที่โรคระบาดโควิดจะหยุดทุก ๆ สิ่ง ตั้งแต่ต้นปี 63 ผมได้ซื้อโต๊ะปิงปองมาวางไว้ที่บ้านพอดิบพอดี
ทั้ง 2 ปีที่ผ่านมา ลูกของผมจึงได้หัดเล่นปิงปอง จนเล่นเป็น และเล่นต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จนได้ไปแข่งขัน ประสบการณ์เกี่ยวกับการสอนให้ลูกได้เล่นปิงปอง และเกร็ดเล็กน้อยที่จะแชร์ให้อ่านกัน ตามบันทึกนี้เลยครับ
จงตีเหล็กขณะที่ยังร้อน : 鉄は熱いうちに打て
สุภาษิตของญี่ปุ่นนี้ เป็นคำสอนมีความหมายว่า เรื่องทุกอย่างมีจังหวะที่เหมาะสมในการจัดการ จึงอย่าพลาดโอกาสนั้น
ก่อนที่ผมจะซื้อโต๊ะปิงปองมาวางไว้ที่บ้านนั้น ลูก ๆ ของผมจะมีกิจกรรมออกกำลังกายที่โรงเรียนในทุก ๆ วัน เช่น เล่นบาสเก็ตบอลกับคุณครูและเพื่อน อยู่มาวันหนึ่งลูกบอกว่าชอบเล่นปิงปอง แต่ไม่มีเพื่อนเล่นช่วงหลังเลิกเรียน ผมจึงไปเล่นเป็นเพื่อนลูก และได้เห็นว่าเขามีความสนใจ อยากเล่นปิงปองมากกว่าบาสเก็ตบอล (อาจจะเพราะด้วยรูปร่างที่ยังเป็นเด็กประถม และแรงซึ่งยังมีไม่มากพอสำหรับเล่นบาสเก็ตบอล) ผมก็สัญญากับลูกว่า พอสอบเสร็จ และปิดเทอมแล้ว จะซื้อโต๊ะปิงปองมาไว้ให้เล่นด้วยกันที่บ้าน

จากจุดเริ่มต้นที่ได้ซื้อโต๊ะปิงปองมาวางไว้ที่บ้านนั้น ผมก็จัดกิจกรรมเล่นแข่งปิงปองทั้งบ้าน พ่อ แม่ ลูก ลุง และเพื่อน ๆ ของผม เพื่อน ๆ ของพี่ชายผม ที่แวะเวียนมาที่บ้าน เราทุกคนต่างเคยเล่นปิงปองกันตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ก็ได้มีโอกาสสลับสับเปลี่ยนมาเล่นปิงปองด้วยกัน กับผม และลูก ๆ ทำให้เกิดเป็นกิจกรรมกีฬาที่สนุก และได้เล่นตลอดช่วงปิดเทอม
เรียนรู้ไปพร้อมกัน
ลูกชายผม ถือเป็นมือใหม่มาก ๆ สำหรับปิงปอง แต่เขาก็ทำได้ดีในระดับของมือใหม่ มีความชอบ มีความตั้งใจ สนุกกับการเล่น แต่ยังไม่มีทักษะที่ถูกต้อง ในขณะที่ผมเองเคยเล่นมาก่อนในตอนเด็ก ๆ ก็ไม่ได้มีทักษะในการตีที่ถูกต้องเช่นกัน ครูเคยสอนอะไรเรา เราก็สอนลูกของเราเท่าที่จำได้
แต่สมัยนี้ต่างจากสมัยก่อนมาก ๆ เรามีอินเตอร์เน็ต มี Youtube ที่ทำให้เราสามารถเรียนรู้ฝึกฝนได้จากการอ่าน การดูวิดีโอ ดังนั้น ผมจึงคัดเลือกวิดีโอปิงปองให้ลูกผมดูอย่างต่อเนื่องบ่อย ๆ ทั้งวิดีโอการแข่งขันระดับโลก ไปจนถึงคลิปการสอนการตีปิงปองในแบบพื้นฐาน

ผมดูวิดีโอไปพร้อมลูก พยายามหัดตีปิงปองให้ถูกต้อง แล้วก็ช่วยกันสอนกันและกัน เพื่อพัฒนาทักษะการตีปิงปอง เราฝึกหัดกันเองที่บ้าน และผมก็ใช้พื้นที่ Social Media ในการบอกเล่าเรื่องราวกิจกรรม สมาชิกชมรมปิงปองประจำจังหวัดได้มาเห็นโพสต์ของผมจึงชวนให้ไปฝึกซ้อมที่ชมรม
ฝึกซ้อมกับคนที่เก่งกว่า
เมื่อได้เริ่มเข้าไปฝึกซ้อมกับคนอื่น ๆ ที่ชมรมปิงปองของจังหวัด ทำให้ได้เจอกับคนที่เล่นปิงปองเป็นจริง ๆ หลาย ๆ คน ได้ขอให้คนอื่น ๆ ช่วยฝึกสอนให้ลูกผม และตัวผม ตีปิงปองได้ดีขึ้น ได้เก่งขึ้น ที่ชมรม มี’ลุงดม’ เป็นคุณลุงผู้ใจดี ที่ฝึกสอนเด็ก ๆ ให้เล่นปิงปองมาแล้วหลายต่อหลายปี ทั้งผม และลูกของผม ก็ได้ลุงดม ช่วยฝึกสอน ให้มีความคล่องแคล่ว มีทักษะที่ดีขึ้น ได้พัฒนาฝีมือจนคนที่บ้านไม่สามารถเล่นปิงปองแข่งกับผมและลูกของผมได้แล้ว

ในชมรม มีเด็ก ๆ รุ่นใกล้ ๆ กันกับลูกชายของผม มีวัยรุ่น มีผู้ใหญ่ หลายต่อหลายคน ทั้งผมและลูก ก็สลับกันเล่นปิงปองแข่งขันกับคนหลาย ๆ คนในชมรม เราได้ฝึกฝนฝีมือกัน เหมือน ๆ กับกีฬาอื่น ๆ นั่นแหละ ยิ่งได้ฝึกซ้อม ประลองฝีมือเยอะ ๆ เราก็พัฒนาขึ้นไป ทีละนิด ๆ
ลงสนามแข่ง
เราฝึกซ้อมกันอย่างสม่ำเสมอในชมรมปิงปองจังหวัด แต่โลกของกีฬาไม่ได้มีเพียงแค่เรา พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ในชมรมเพียงอย่างเดียว ยังมีคนอื่นอีกมากมายหลายคนที่เล่นปิงปอง ทักษะฝีมือของแต่ละคน เทคนิคของแต่ละคนต่างกัน การได้เจอกับคนอื่น ๆ ได้เล่นแข่งขันกับคนอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยประลองฝีมือกัน เป็นความท้าทายที่น่าตื่นเต้น
หลังจากที่ลูกของผม และตัวผมเอง ได้ฝึกหัดปิงปองกันมาต่อเนื่อง 3-4 เดือน ก็ได้มีโอกาสลงสนามแข่งที่ จ.สงขลา ลูกผมลงแข่งรุ่นอายุไม่เกิน 13 และรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี การแข่ง 2 รุ่น ทำให้เขาได้เล่นกับคนหลาย ๆ คน จากหลาย ๆ จังหวัด ได้เห็นคนเก่ง ได้เจอกับคนเก่ง ได้ประสบการณ์กลับมาอีกมากมาย ทำให้เรารู้ตัวว่าเรายังห่างจากเขาอีกมาก และเรายังพัฒนาให้เก่งได้อีก

อีก 2 เดือนหลังจากนั้น ก็มีสนามให้ลูกผมได้ลงแข่งหาประสบการณ์อีกครั้งหนึ่ง ร่วมทีมของจังหวัดปัตตานีแข่งแข่งกระชับมิตร ระหว่างจังหวัด ปัตตานี-ยะลา โดยลูกผมลงเล่นในทีมรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี และผมลงเล่นในทีมอาวุโส – แม้ทั้งผมและลูกจะแพ้ในการแข่งขัน แต่เราก็ได้ประสบการณ์ดีๆ มาเยอะมาก (ลูกผมชนะเยอะมาก แต่คะแนนรวมของทีม ยังไม่ดีพอที่จะชนะทีมจากจังหวัดยะลา)

ฝึกฝนกันเองอย่างต่อเนื่อง
ล๊อคดาวน์เนื่องจากโรคระบาด เด็ก ๆ ต้องเรียนออนไลน์ 100% ไม่มีโอกาสได้ไปโรงเรียน ไม่ได้เจอเพื่อน ๆ และไม่ได้ไปชมรมปิงปอง – การที่เด็กต้องเรียนออนไลน์ อยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือ iPad ทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วงว่าเด็กจะอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือ iPad มากเกินไป อยู่แต่ในห้อง ผมจึงจัดเวลาให้ลูก ๆ ของผมต้องออกนอกห้อง มาออกกำลังกายกัน
ช่วงเวลาประมาณ 6 โมงครึ่ง ไปจนถึง 2 ทุ่มกว่า ๆ จะเป็นเวลาที่ผมพาลูก ๆ ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การยกน้ำหนักฝึกกล้ามเนื้อ และปิงปองก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมกีฬา
ผมพอจะได้เห็นตัวอย่างว่าผู้ฝึกสอนปิงปอง เขาทำอย่างไรบ้างในแต่ละวัน ผมก็พยายามออกแบบการฝึกซ้อมปิงปองตามที่ได้เห็นมา ตามที่ได้ดูมาจากวิดีโอใน youtube และจัดให้ลูก ๆ ของผม ได้ฝึกซ้อม ตามที่ผมออกแบบการฝึกซ้อมเอาไว้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นการฝึกซ้อมที่ถูกต้อง แต่อย่างน้อย ลูก ๆ ผมก็ได้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และได้เล่นปิงปองอย่างต่อเนื่อง
คำว่าต่อเนื่องของผม หมายถึง อย่างน้อย ๆ สัปดาห์หนึ่ง ผม และลูก จะได้เล่นปิงปองกัน 2-4 วัน และก็เล่นปิงปองกันต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ แทบจะตลอดทั้งปี 64 (จะมีช่วงที่หยุดเล่นบ้าง เช่น ช่วงที่ลูกผมต้องสอบเก็บคะแนน)
ทำให้น่าตื่นเต้นท้าทายอยู่เสมอ
การเล่นปิงปองอย่างต่อเนื่อง ทุก ๆ สัปดาห์ เป็นเวลาหลาย ๆ เดือน พอเล่นวนซ้ำไปซ้ำมาเรื่อย ๆ ลูกผมก็เริ่มเบื่อ ผมก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำให้มันมีความแตกต่างไปบ้างในแต่ละครั้งที่เล่นปิงปองด้วยกัน ผมมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยทำให้รู้สึกตื่นเต้นอย่างต่อเนื่องได้
ติดตามดูการแข่งขันปิงปองรายการใหญ่ ๆ และเชียร์นักกีฬาที่ชอบ เปิดวิดีโอให้ลูกดูและเชียร์ไปพร้อม ๆ กัน แล้วชวนลูกคุยถึงสิ่งที่ได้เห็นในวิดีโอ วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ไม่ต้องลงทุนอะไร นอกจากในเวลากับการดูการแข่งขัน และก็ยังช่วยดึงลูก ๆ ของผม ออกมาจากการจดจ่อกับเกมส์ หรือการ์ตูนได้ด้วย
แข่งขันเก็บแต้มในแต่ละสัปดาห์ ชิงความเป็นหนึ่งระหว่างผมกับลูกผม โดยการแข่งกัน หาว่าใครจะเป็นผู้ชนะในสัปดาห์นั้น ๆ โดยผมและลูกจะแข่งกัน 2 วันในแต่ละสัปดาห์ ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ 8 ครั้ง ถ้าใครมีจำนวนครั้งที่ชนะมากที่สุด คนนั้นได้เป็นแชมป์ของบ้าน การพยายามเล่นให้สูสี ผมชนะ ลูกชนะ ทำให้เกิดความตื่นเต้นได้ ในกรณีที่ลูกของผมรู้สึกว่ามีโอกาสที่จะสามารถเอาชนะผมได้ เขาจะรู้สึกสนุกกับการแข่งขัน และอยากฝึกซ้อมพัฒนาตัวเอง
เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ๆ ก็ช่วยทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้ด้วยนะ เวลาที่ไม้ปิงปองมันเก่า เวลาที่หน้ายางปิงปองมันเสื่อม ผมก็ซื้ออุปกรณ์ใหม่มาทดแทน เวลาที่มีอุปกรณ์ใหม่ ๆ มาเล่น เดือนนี้ผมซื้อใหม่ให้ตัวผม เดือนถัดไปซื้อใหม่ให้ลูกผม บางทีก็แพงบ้าง บางทีก็ถูกบ้าง มันก็ช่วยกระตุ้นให้รู้สึกตื่นเต้นได้เสมอ
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่มีอะไรกระตุ้นให้รู้สึกตื่นเต้นได้ดีเท่ากับการลงแข่งขันจริง ๆ
ลงแข่งกันอีกครั้งหนึ่ง
ปี 64 ใกล้จะผ่านไปแล้ว การล๊อคดาวน์ค่อย ๆ คลี่คลาย ภาครัฐเปิดโอกาสให้จัดกิจกรรมได้ภายใต้การควบคุมป้องกันโรคติดต่อที่เป็นไปตามข้อกำหนดของสาธารณะสุข ในที่สุดก็มีการจัดการแข่งขันกีฬาภายในจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อม และเฟ้นหานักกีฬาที่จะเป็นตัวแทนของจังหวัด ผมและลูกผม ก็ได้ลงชื่อสมัครเข้าร่วมการแข่งขันภายในจังหวัด
การแข่งขันทำให้เกิดความท้าทาย ทำให้รู้สึกสนุกตื่นเต้น อยากฝึกซ้อม กระตุ้นให้ฝึกซ้อม ได้ออกกำลังกาย
สำหรับผม ลงแข่งในรุ่นทั่วไป ต้องเจอกับคนเก่ง ๆ เจอกับวัยรุ่น คนที่เป็นนักกีฬามาอย่างยาวนาน ได้สนุก ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ได้แพ้กลับบ้านอย่างที่คาดเอาไว้
แต่ลูกชายผม กลับคว้าชัยชนะในการแข่งขันภายในจังหวัดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ อาจจะเพราะด้วยเหตุที่ว่าสถานการณ์โควิดทำให้เด็ก ๆ จากอำเภออื่น ๆ ไม่ได้มาเข้าร่วม เด็กที่มีฝือมือดี ๆ ที่มาแข่งด้วยกัน ไม่ได้ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง (ในขณะที่ลูกผมได้ฝึกซ้อมที่บ้านเรื่อย ๆ ทุกๆ สัปดาห์แทบจะตลอดทั้งปี)

ไปให้ไกลกว่าเดิม
เราเล่นกีฬาเพื่อให้สุขภาพดี มีร่างกายที่แข็งแรง แต่การจะกระตุ้นให้เราอยากออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่ง หากผมยังจะไม่สามารถทำให้ลูกของผมมีนิสัยชอบการออกกำลังกาย ผมก็ต้องหาอะไรที่จะมากระตุ้นให้ลูกของผมรู้สึกอยากออกกำลังกายต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะพัฒนาความสามารถของตัวเอง และยังคงทำให้ได้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ
ผมตั้งเป้าไปที่การแข่งขันระดับประเทศ ซึ่งมีการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ บ่อยครั้งก็มีการจัดที่จังหวัดที่ไม่ไกลจากจังหวัดปัตตานีที่ครอบครัวผมอาศัยอยู่ พอดีเลย ต้นปี 65 มีการแข่งขันระดับอาวุโสจัดขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ ผมจึงลงชื่อสมัครเข้าร่วมแข่งขัน และหอบหิ้ว พาลูกชายของผมไปร่วมชมร่วมเชียร์ และเป็นโค้ชให้กับผมด้วย

ผมแพ้กลับบ้านตามที่คิดเอาไว้ และได้ประสบการณ์กลับมาอย่างที่คิดไว้ เป็นตัวอย่างให้ลูกชายของผมได้เห็นว่า ในระดับประเทศ เราก็สามารถส่งตัวเองเข้าแข่งขันได้ ในเมื่อผมเข้าร่วมการแข่งขันได้ ลูกของผมก็สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้เหมือนกัน
เราตั้งเป้ากันต่อ ถ้าหากมีการจัดการแข่งขันระดับประเทศที่จังหวัดใกล้ ๆ ที่เราสามารถขับรถเดินทางไปร่วมงานได้ เราจะลงชื่อสมัครเข้าร่วม แล้วก็ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยกัน
เริ่มต้นนับปีที่ 3 ของการฝึกหัดกีฬา
ปี 65 เริ่มต้นปีได้สวยงาม ได้คว้าประสบการณ์แข่งขันในสนามระดับประเทศ รู้สึกตื่นเต้น สนุกท้าทาย มีแรงผลักดันให้ฝึกซ้อมออกกำลังกายต่อเนื่องไป ผมเขียนบทสรุปสั้น ๆ เป็นข้อ ๆ เอาไว้หลังจากกลับมจากการแข่งขัน ตั้งไว้เป็นหลักคิดให้ตัวเอง ว่าจะใช้การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์พ่อ-ลูก และช่วยในการเลี้ยงลูกได้อย่างไร ดังนี้ครับ
- โควิด ลดโอกาสการเรียนรู้การกีฬาของเด็กๆ ยิ่งเป็นจังหวัดปัตตานีซึ่งห่างไกลความเจริญมากไปหน่อย ก็ยิ่งขาดแคลนทั้งสถานที่และผู้ฝึกสอน – ก็ต้องพยายามหาทางเรียนกันเองให้ได้
- 1-2 สัปดาห์ได้เจอกับมืออาชีพสักครั้งหนึ่ง ให้เขาจับสอน พ่อลูกช่วยกันจำเนื้อหาที่เขาสอน แล้วเอามาซ้อม เอามาทบทวน- สอนให้เด็กติดกีฬา เพื่อให้เขามีทางออก มีทางระบายความเครียด และทำให้เขาเสพติดการออกกำลังกาย ช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพดี
- ไม่ได้บังคับให้เลือกกีฬาปิงปอง แต่จังหวะพอดี ลูกสนใจเล่น จึงต้องรีบคว้าโอกาสนี้ และยังจับเขาฝึก จับออกกำลังกายมาได้อย่างต่อเนื่อง
- พยายามสอนให้เขาเรียนรู้การเข้าสังคมของคนเล่นกีฬาไปพร้อมๆกันกับการฝึกทักษะกีฬา ทำให้เขารู้ว่า ไม่จำเป็นต้องเล่นกับเพื่อนสนิท แต่สามารถแนะนำตัวเอง ทำความรู้จักกับใครๆก็ได้ แล้วขอเล่นกับเขาได้
- พาลูกออกนอกจังหวัด ให้ได้เจอกับคนอื่นๆ ให้ได้รู้ว่าที่จังหวัดอื่นสามารถเล่นปิงปองได้ที่ไหนบ้าง จะได้รู้ทั้งสถานที่ออกกำลังกาย วิธีเข้าหาคน และความพยายามที่จะพาตัวเองเข้าสังคมการออกกำลังกาย – พยายามจะสอนให้ไม่ติดกับดักทางจิตวิทยาที่ว่าความสนุกจะต้องเกิดจากการเล่นกับคนรู้จักหรือเพื่อนที่รู้ใจอย่างเดียว เดี๋ยวเพื่อนชวนไปกินเหล้าเมายาก็ตามเพื่อนไป – แต่ให้รู้ว่า เราสามารถใช้กีฬาผ่อนคลายความเครียดได้ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเล่นกับคนวัยเดียวกันเสมอไป
- แต่ถึงกระนั้น การเล่นกีฬาให้สนุก ก็ต้องรู้จักพัฒนาฝีมือให้เหมาะกับการเล่นกับคนทุกระดับฝีมือด้วย ถ้าไม่เก่งพอ คนอื่นอาจจะไม่ยอมเล่นด้วยก็ได้ (แบบป๊าปั่นจักรยานไม่ทันเพื่อน เลยต้องเลือกปั่นสนามที่สร้างความลำบากให้กับชีวิตมากกว่าเดิม)
- ฝึกซ้อมกันไปท่ามกลางความขาดแคลน สักวันหนึ่งความพยายามเหล่านี้จะไม่สูญเปล่า เราจะเล่นกีฬาได้ดี 1 อย่าง และยังมีทักษะในการเรียนรู้ ฝึกซ้อม และรู้จักความมีวินัยในการฝึกซ้อม (ถึงแม้จะจัดให้ฝึกแค่สัปดาห์ละ 2 วันเท่านั้น)
- หากมีโอกาสได้เรียนรู้กีฬาประเภทอื่น ก็ไม่ห้าม จะวิ่งมาราธอนก็ได้ จะไปปั่นจักรยานทางไกลก็ได้ จะไปเข้าร่วมทีมบาสฯ โรงเรียนก็ได้ หรือจะไปหัดว่ายน้ำไตรกีฬาก็ได้ แต่ขอให้ตั้งใจเรียนรู้และฝึกซ้อม ไม่เปลี่ยนไปมา เล่นแล้วเบื่อ เล่นแล้วเลิก แบบนั้นก็ยังไม่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองนะ
- ไม่มีเพื่อนเล่นกีฬา เข้ากลุ่มได้ไม่ดี ไม่เป็นไร ระหว่างนี้ ป๊ายังมีแรง ป๊าจะเป็นผู้ฝึกซ้อมให้ ป๊าจะช่วยพาไปหาครูหาโค้ชให้ – ขอแค่ไม่วิ่งไปหายาเสพติดหรือไม่ไปสถิตอยู่ตามสถานที่อโคจรก็พอแล้ว

ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ผมต้องการที่สุด สำหรับการทำกิจกรรมกีฬากับลูกของผม คือ ต้องการให้เขา ติดนิสัยรักการออกกำลังกาย รู้จักวิธีออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองครับ